วันศุกร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2558

Dreamworks อำนาจห่วย! คนชมแอนิเมชั่นน้อย โล๊ะโปรเจคเหลือ 2 กถาต่อปี

ค่าย Dreamworks กำลังแย่! คนดูแอนิเมชั่นน้อย โล๊ะโปรเจคเหเล่าลือ 2 เรื่องต่อปี




ซึ่งถึงแม้ว่าจะได้ ชื่อว่าเป็นสตูดิโอผลิตหนังhttp://woodykeeka.wordpress.com/การ์ตูนแอนิเมชั่นชื่อดังของโลก แถมปีที่เปลี่ยนมาก็ทำรายได้จากภาพยนตร์เรื่อง How to Train Your Dragon 2 ไปได้ไม่น้อย

แต่ว่าทาง Dreamworks ก็กำลังดิ้นรนเอาตัวรอดจากสถานการณ์ ทางการเงินของบริษัทอยู่เหมือนกัน เนื่องแต่ในช่วง 2 - 3 ปีที่ข้ามมานี้รายได้จากภาพยนตร์แอนิเมชั่นของ Dreamworks นั้นทำยอดได้ลดลงเรื่อยๆ

พร้อมทั้งอันเนื่องมาจากผู้ชมจอเงินการ์ตูนแอนเมชั่นลดน้อยลง อีกทั้งยังเจอหนังแอนิเมชั่นของคู่แข่งอย่าง Frozen ของดิสนี่ย์แย่งซีนไปด้วย




ด้วยกันเพื่อความอยู่รอดของบริษัท ทาง Dreamworks จึงปลงใจลดขนาดของบริษัทลง ด้วยการเลิกจ้างพนักงานกว่า 500 ตำแหน่ง พร้อมด้วยลดจำนวนโปรเจคจอเงินแอนิเมชั่นที่ทำฉายในแต่ละปี

จากแต่ก่อนหนังเข้าใหม่ปีละ 3 เรื่อง เหลือเช่นปีละ 2 เรื่องเท่านั้น เพราะว่าภาพยนตร์แอนิเมชั่นแต่ละเรื่องนั้น ทาง Dreamworks ใช้เงินลงทุนสร้างค่อนข้างมาก

แต่ว่ายอดรายได้จาก Box Office น่าผิดหวัง เพราะเฉพาะเรื่อง Shrek ด้วยกัน Madagascar ที่ทำยอดได้น้อยลง มีปาง How to Train Your Dragon 2 เท่านั้นที่พอทำกำไรให้บริษัทได้

ด้วยกันในช่วงที่ทาง Dreamworks กำลังประสบปัญสมมตารเงินนี้ ก็มีบริษัทอื่นยื่นข้อเสนอขอซื้อกิจการหนังใหม่ อย่างเช่น SoftBank หรือว่า Hasbro เป็นเงิน 3,4 พันล้าน US Dollars




พร้อมทั้งสิ่งที่ Jeffrey Katzenberg ซึ่งเป็น CEO ของบริษัท DreamWorks Animation เปิดเปิดเผยว่าการลดจำนวนจอเงินที่จักทำออกมานั้นเป็นหนทางหนึ่ง ที่จักช่วยแก้ปัญสมมติารเงินของบริษัทได้ โดยการทำภาพยนตร์ออกมาแค่ 2 เรื่องต่อปีก็พอ

แต่ว่า 2 เรื่องนั้นต้องเป็นจอเงินคุณภาพ ที่ทำรายได้สูงในรอบหนังของ Box Office คือทำออกมาน้อยลง แต่เน้นคุณภาพเพื่อให้ทำรายได้ที่ดีกว่า เพื่อความอยู่รอด


ด้วยกันทั้งนี้ตัวอย่างหนังใหม่ พอตอนปี 2012 ทาง DreamWorks ก็เคยประกาศเลิกจ้างพนักงานกว่า 350 คนไปแล้ว แต่ตอนนั้นผังงานของทาง DreamWorks ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง คือจะทำหนังแอนิมเชั่นภาคต่อออกมาปีละ 2 เรื่อง

ด้วยกันได้ทำเรื่องใหม่ออกมาปีละเรื่อง รวมเป็น 3 เรื่องต่อปี ซึ่งทำให้บริษัทขาดทุนไปไม่น้อย พอมาคราวนี้ปลดไปอีก 500 คน กับลดโปรเจคเหโจษแค่ 2 เรื่องต่อปีแล้ว จะช่วยให้ทาง DreamWorks อยู่รอดได้ครันหรือไม่




แต่ว่าประเดี๋ยวนี้โปรแกรมหนังจอเงินแอนิเมชั่นจาก DreamWorks ที่กำลังสร้างยังมีอยู่บานเบอะ คือ

  1. โทร์ล
  2. สำนักงานปฏิบัติการโลกหน้า
  3. ละครเพลงที่มุมไบ
  4. กังฟูแพนด้า 3 
  5. How to Train Your Dragon 3 


แต่ว่าภายหลังนี้จะขึ้นต้นมีงานสร้างน้อยลงแล้ว

ที่มา: http://movie.sanook.com/46709/

วันอังคารที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2558

หนัง: นี่เป็น 5 ผิวหนังฟอร์มยักษ์ พล็อตใหม่ ที่น่าถูกตาแห่งหนปี 2015

นี่คือ 5 หนังฟอร์มยักษ์ พล็อตใหม่ ที่น่าจับตาแห่งปี 2015




เรื่องแรก Chappie





นับว่าเป็นผลงานตัวอย่างหนังใหม่เรื่องล่าสุดของผู้กำกับหนัง นีลล์ บล็อมแคมป์ ที่ได้สร้างผลงานหนังสัตว์ประหลาดเรื่องเยี่ยมอย่าง District 9 พร้อมกับหนหนังเรียกร้องมนุษยธรรมอย่าง Elysium มาแล้ว

แต่ทว่า Chappie จักชี้แจงเล่าเรื่องราวของแชปปี้หุ่นยนต์ที่เกิดมามีความคิดอ่านไม่ต่างจากเด็กน้อยคนหนึ่ง ทว่าโชคเล่นตลกทำให้มันโดนอาชญากรจับตัวไปพร้อมด้วยกลายเป็นสมาชิกที่ไม่สมประกอบ แต่ยิ่งเติบโตขึ้นแชปปี้กลับฉายแววบางอย่างออกมา



เรื่องที่สอง Tomorrowland




นี่เป็นหนังมาใหม่ผลงานการกำกับของ แบรด เบิร์ด ซึ่งได้เปลี่ยนหนังบล็อกบัสเตอร์มาจาก Mission Impossible 4 ที่จะหมายเล่าเรื่องราวของ เด็กสาวฮิวจ์ ลอว์รี่ เด็กหญิงที่บังเอิญได้พบกับเข็มกลัดวิเศษเพราะบังเอิญทำให้เธอเดินทางไปยังแดนมหัศจรรย์อย่างทูมอโรว์แลนด์ได้

เพราะที่เธอไม่รู้เลยว่าในโลกที่สวยงามนั้นมีอันตรายพร้อมกับความลับอีกมากมายซ่อนอยู่ หนังได้นางเอกบริทท์ โรเบิร์ทสัน แสดงร่วมกับจอร์จ คลูนีย์



เรื่องที่สาม Inside Out




โปรแกรมหนังซึ่งการได้กลับมาของพิกซาร์ซึ่งครั้งนี้จักกลับมาดังเปรี้ยงอีกครั้งหรือว่าไม่ภายหลังช่วงหลังๆ หนังของค่ายนี้กลับซบเซาในเรื่องของเสียงวิจารณ์พอสมควร

ตัวหนังเล่าเรื่องของ ไรลีย์ ที่เป็นเด็กหญิงขึ้นมาจากชีวิตแบบตะวันตกตอนกลาง จนกระทั่งพ่อของเธอต้องเริ่มทำงานใหม่ในซาน ฟรานซิสโก เช่นเดียวกับเราทุกคน ไรลีย์ถูกชักนำด้วยอารมณ์ต่างๆ ของเธอ

  1. ความสุข หรือว่า เอมี่ โพเลอร์
  2. ความกลัว ใช่ไหม บิล เฮเดอร์
  3. ความโกรธ หรือไม่ก็ ลิววิส แบล็ค
  4. ความน่ารังเกียจ เหรอ มินดี้ คาร์ลลิ่ง 
  5. ความเศร้า หรือว่าฟิลลิส สมิธ

ซึ่งอารมณ์ทั้งหมดจึงต้องช่วยให้เธอทะลวงชีวิตในแต่ละวันไปได้ นี่เป็นผลงานของพีท ด็อกเตอร์เจ้าของแอนิเมชั่นสุดประทับใจอย่าง


เรื่องที่สี่ Crimson Peak




เหตุด้วยหนังสยองขวัญแฟนตาซี ที่เล่าเรื่องราวของ อีดิธ ครัชชิง เธอเป็นนักเขียนสาว ที่ต้องพบกับความน่ากลัวที่ซุกซ่อนอยู่ในตัวสามี และเบื้องหลังตัวตนสุดลี้ลับ ที่เธอเองก็ไม่เคยรู้มาก่อนตัวหนังจะเน้นความน่ากลัวในคฤหาสน์เก่าๆ

อีกทั้งยังได้ดารามากฝีมืออาทิ
เจสสิกา แชสเทน
ทอม ฮิดเดิลสตัน
จิม เบรเวอร์
มีอา วาซิโควสกา
ชาลี ฮันแนม

ด้วยกันนี่เป็นผลงานการกำกับของ กิลเลอร์โม เดล โตโรจากเรื่อง Pacific Rim



พร้อมทั้งเรื่องสุดท้าย Midnight Special




นี่เป็นรอบหนังแนวไซไฟ - ดราม่า ที่รับสั่งเล่าการเดินทางของคู่พ่อลูกที่ต้องหลบหนีการตามล่า จนถึงพ่อพบว่าในอดีตคราวเขายังเด็กนั้นตนมีพลังพิเศษพร้อมด้วยมันยังหลับใหลอยู่ในตัว เป็นผลงานการกำกับของเจฟฟ์ นิโคลที่ทำหนังดาร์คๆ เกี่ยวกับอารมณ์มนุษย์อย่าง Mud พร้อมทั้ง Take Shelter ตัวหนังจะได้นักแสดงอย่าง

  1. โจเอล เอ็กเกอร์ตัน
  2. แซม เชฟเพิร์ด
  3. คริสเทน ดัสน์


มาร่วมแสดงด้วย

วันพุธที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2558

โปรแกรมหนัง: อัพเดทความขยับเขยื้อนไหวสรรพสิ่งภาพยนตร์ AVENGERS: AGE OF ULTRON

มาดูอัพเดทความเคลื่อนไหวของหนัง AVENGERS: AGE OF ULTRON




ก็เรียกได้ว่าทางค่ายหนังมาร์เวลเอง นั้นได้ เปลื้องข่าวสารรวมไปถึงภาพถ่าย คอนเซปอาร์ทพร้อมด้วยภาพจากตัวหนังออกมาอย่างไม่ขาดสาย เรียกได้ว่าเป็นการปลุกกระแสไปในตัว ภาพล่าสุดที่ ปล่อยวางออกมานั้นเป็นภาพที่เดอะฮัลค์กำลังประจันหน้ากับไอรอนแมน นอกเหนือไปจากนี้ยังเป็นภาพของบรรดาคาแรกเตอร์ในหนังกำลังออกท่าทางต่างๆ มากมาย

ซึ่งอย่างไรก็ตามตัวอย่างหนังใหม่สิ่งที่น่าสนใจไม่พ่ายแพ้กันก็คือบทบาทของวายร้ายในหนังภาคใหม่ซึ่งตัวละครอัลตรอนที่รับบทบาทนี้เพราะ เจมส์ สเปนเดอร์ นั้น มีความเป็นมาคือมันเป็นจักรกลที่มาจากการทดลองของโทนี่ สตาร์ค แต่จากความผิดพลาดทำให้มันมีความคิดอ่าน และ มองว่าเหล่ามนุษย์เป็นศัตรู และความพยายามในการอัพเกรดตัวเองนั้นเพื่อให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น ไม่ปางเท่านี้อัลตรอนยังพยายามรวบรวมกองทัพหุ่นยนต์โดรนในการจัดการกับระบบคอมพิวเตอร์, เครือข่ายเนตเวิร์ค และแผนของมันจะลุล่วงก็ต่อเมื่อมนุษยชาติสูญสิ้นเผ่าพันธุ์

ในส่วนฮีโร่อีกคนที่มี ความสำคัญในหนังภาคนี้ก็คือ วิชั่น ซึ่งรับบทโดย พอล เบตตานี่ ปูมหลังคร่าว ๆ ของตัวละครนี้ในเวอร์ชั่นหนังสือการ์ตูนนั้นมันเกิดจากการสร้างของอัลตรอน ทว่าในเวอร์ชั่นหนังนั้นมีการดัดแปลงให้ตัวละครนี้ได้รับการโปรแกรมใหม่จาก โทนี่ สตาร์ค ด้วยกัน บรูซ แบนเนอร์ พร้อมทั้งเพิ่มความอาจในการบินได้ สมรรถ ให้ความเป็นไทลำแสงพิเศษ รวมถึงเปลี่ยนรูปร่างได้ด้วย วิชั่นพยายามจะพิสูจน์ตัวเองว่าเขาอาจจักเป็นฮีโร่ได้เพราะการร่วมกลุ่มอเวนเจอร์เพื่อต่อกรกับวายร้ายอย่างอัลตรอนด้วย

ซึ่งไม่พ่างเท่านี้รูปภาพหนังเข้าใหม่ล่าสุดก็คือบทบาทของตัวละคร ดร โช ซึ่งรับบทบาทนี้เพราะคลาวเดีย คิม

ด้วยว่าพล็อตเรื่อง ของหนังภาคใหม่คือ โทนี่ สตาร์ค ต้องการที่จะปัดฝุ่นโครงการเพื่อสันติสุขของชาวโลกขึ้นมาอีกครั้ง

แต่ว่ามันไม่ได้เป็นไปอย่างที่คาดไว้ พร้อมกับเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ผู้ทรงพลังอย่าง

  1. ไอรอนแมน
  2. กัปตันอเมริกา
  3. ธอร์
  4. ดิ อินเครดิเบิ้ล ฮัลค์
  5. แบล็ค วิโดว์ 
  6. ฮอว์คอาย 


นั้นต้องเผชิญกับบทชิงชัยอันยิ่งใหญ่โดยมีชะตากรรมของโลกแขวนอยู่บนเส้นด้าย ปาง อัลตรอน สุดยอดวายร้ายได้ถือกำเนิด มีเหมือนเหล่าอเวนเจอร์สเท่านั้นที่จักทำได้หยุดยั้งเขาและแผนการอันชั่วร้ายของเขาได้ ความวิตกกังวลของเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ยอดนักสู้พร้อมกับการกระทำที่ไม่คาดคิดได้นำไปสู่มถ้าาพย์การผจญภัยระดับโลกที่ไม่มีใครเหมือนเช็ครอบหนังเพิ่มเติมได้ที่นี่ http://xn--12cmad7fk7bcnb3gc0fe3una1a6g.blogspot.com/



วันพุธที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2558

วิจารณ์หนัง ชอบพอหมดแก้ว Love on The Rock ชีวะมันแข็งแสนห้วน

บทวิจารณ์หนัง รักหมดแก้ว Love on The Rock ชีวิตมันแสนสั้น






เช็ครอบหนัง: เนื่องด้วยบางคนอาจจักตั้งคำถามว่าถ้าถ้าตัวเองไม่ได้เป็นคนกินเหล้าหรือไม่อยู่ในกลุ่มเพื่อนที่ชอบออกไปสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนในยามวิกาลแล้วจะยัง มีอารมณ์ร่วม ไปกับหนังเรื่องนี้หรือเปล่า อันที่นักตัวหนังเรื่องนี้ก็ไม่ได้มีความเฉพาะกลุ่มขนาดนั้น นักอยู่ที่เหตุการณ์หลักๆของมันจักเกิดขึ้นกับสังคมในวงสุรา แต่ในขณะเดียวกันตัวหนังก็ยังพูดถึงเรื่องราวความรักของ
หนุ่มสาว - มิตรภาพระหว่างกลุ่มเพื่อน - การเรียนรู้ชีวิตเปลี่ยนชีวิตพร้อมด้วยคำเจรจาเล่าของคนอื่น

รวมไปถึงการเก็บเกี่ยวประสบการณ์อันมีค่าของแต่ละคนด้วย

เหตุด้วยตัวหนังชี้แจงเล่าเรื่องราวของ ไฟเลี้ยว หรือไม่ พิไลพร สุปินชมภู หญิงสาวรักอิสระพร้อมทั้งไม่ต้องการจะถูกผูกมัดใดๆ เธอคิดว่าความรักที่ดีด้วยตัวเองนั้นคือการที่ต่างฝ่ายต่างจะต้องเว้นช่องว่างระหว่างกันไว้จนไม่น่าอึดอัดไม่ใช่หรือห่างเหินกันมากจนเกินไป

ถึงแม้ว่าตลอดชีวิตเธอจักผิดหวังมาโดยตลอดจนกระทั่งเธอได้เจอกับ บั๊กโจ้ ไม่ใช่หรือ ณปรัชญ์ รัตนนิตย์ หนุ่มตี๋หน้างงโลก เจ้าของร้านเหล้าที่ขอเงินพ่อตัวเองมาเปิด เหมือนเป็นสถานที่เอาไว้สังสรรค์กับเพื่อนฝูง เขาดูไม่คิดจักยิ่งจังอะไรกับชีวิตก็เพราะว่าคิดว่าอนาคตยังอีกยาวไกลด้วยกันเวลาก็เหมือนเป็นสิ่งที่ไม่มีวันหมด

ด้วยประเด็นเรื่องการคบกันแบบหลวมๆ จึงถูกพัฒนากับชี้ให้เห็นว่าอันที่แน่ๆแล้ว ความรักแบบมีช่องว่าง ก็มีปัญหากับความขัดแย้งในตัวเองอยู่ ทันทีที่อันที่ยิ่งแล้วการที่คนสองคนอยู่ใกล้ชิดกัน ซึ่งในเรื่องปูดให้เห็นว่าทั้งไฟเลี้ยวพร้อมด้วยบั๊กโจ้อาศัยอยู่ด้วยกัน ในช่วงเวลาที่แต่ละคนอยู่คนเดียวก็ยังมีการแสดงออกถึงความเป็นเจ้าของกันพร้อมกับกันอยู่ดี ทั้งความผูกพันของคนสองคนย่อมเกิดขึ้นมาอยู่แล้วอย่างไม่อาจจะหลีกเลี่ยง ทำให้การ คบซ้อน ของทั้งสองฝ่ายทำให้ต่างฝ่ายต่างเปรียบเทียบ คนใหม่ ของกันและกันอยู่ในที

ซึ่งในขณะที่ฝ่ายหญิงกลายเป็นตัวละครที่พยายามจักสะท้อนสภาวะความไม่แน่นอนของการใช้ชีวิตคู่เธอเลยไม่มุ่งหมายจะกระโจนลงไปในสิ่งที่เธอหวาดกลัวว่า ถ้าสมมตเธอเองตบปากพร้อมกับรักใครสักคนอย่างหมดหัวใจแล้ว เธอจักไม่ผิดหวัง ไฟเลี้ยวจึงเเลื่องกจะเพลย์เซฟตัวเองด้วยการทำให้เจ็บปวดน้อยที่สุด ซึ่งหารู้ไม่ว่าสิ่งที่เธอกำลังทำอยู่นั้นก็สร้างความเจ็บปวดให้กับตัวเองไม่จำนนกัน

ด้วยกันถึงแม้ว่าความรักระหว่างคู่ พระ - นาง นั้นจักว้าวุ่นแค่ไหน แต่สิ่งที่น่าสนใจไม่ปราชัยกันในตัวอย่างหนังใหม่เรื่องนี้ก็คือบรรดาสังคมในวงเหล้าซึ่งประกอบไปด้วย

  1. พี่อุ๊ ไม่ใช่หรือ มาช่า วัฒนพานิช ที่เป็นเจ๊ใหญ่ในวงเหล้า เต็มที่ในทุกวันกับชีวิต
  2. พี่แมน หรือ ปองศักดิ์ รัตนพงษ์ ที่เป็นเกย์แมนพูดจาตรงไปตรงมีมีความคิดสวนทางกับพี่อุ๊เสมอ
  3. พี่โบ้ รหือ ปองกูล สืบซึ้ง เขาเป็นรุ่นพี่ร่างใหญ่ที่เป็นเหมือนศาลพระภูมิในวงเหล้า
  4. พี่นุ ไม่ก็ เอ็ม บุดดาเบลส ทายาทลูกเศรษฐีที่ชอบแต่งตัวเป็นฮิปสเตอร์
  5. เจ๊ด เหรอ สงกรานต์ The Voice เขาเป็นหนุ่มเซอร์สุดเสี่ยว ที่เคยจีบไฟเลี้ยวแต่ไม่ติด
  6. ญาญ่า หรือไม่ แอน โพลิติก เพื่อนสนิทแสนสุภาพของไฟเลี้ยว


ซึ่งความโดดเด่นอย่างหนึ่งของหนังเรื่อง รักหมดแก้ว นั้นก็คือช่วงเวลาที่หนังให้เราได้เห็นการอยู่รวมกันของคณะสุราที่กลุ่มเพื่อนจักพูดคุยกันอย่างสนุกสนานจนเราเกือบลืมไปเลยว่าบุคคลิกลุ่มนี้กำลังแสดงหนังเข้าใหม่ในเราดูอยู่

พร้อมกับความเป็นกันเอง ของตัวละครจึงทำให้ผู้ชมเปรียบเสมือนเป็นเพื่อนอีกคนที่ได้เฝ้ามองพวกเขาเล่าชีวิตอันน่าตื่นเต้น ฝาดโผนด้วยกันน่าผิดหวังไปพร้อมๆ กัน

ดังนั้นเรื่องย่อละครจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ครั้นมีเพื่อนสักคนในกลุ่มเกิดจักเจ็บไข้ได้ป่วยไม่ใช่หรือไม่สบายกะทันหันจนท้ายที่สุดแล้วเพื่อนคนดังกล่าวจะจากเราไปอย่างไม่มีวันกลับ ด้วยกันถึงแม้ว่าเพื่อนคนอื่นๆ จะเศร้าแค่ไหน จุดหักเหของชีวิตใครสักคนย่อมทำให้อีกหลายคน คิด ต่อไปอีกว่าชีวิตของเราล่ะจะเดินหน้าไปอย่างไรกันต่อดีก็เพราะว่าท้ายที่สุดแล้วคนเราก็ต้อง เเลื่องลือก ในสิ่งที่ดีที่สุดให้กับชีวิตตัวเอง พร้อมกับสุดท้ายเราก็จะได้เรียนรู้จากประสบการณ์ของตัวเองเพราะว่าที่ไม่มีใครมาสอนเราได้ด้วยเช่นกัน

@พริตตี้ปลาสลิด

3.5 คะแนนจาก 5 คะแนน

วันอังคารที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2558

ข่าวสารโปรแกรมหนัง 007 Spectre โดนมือดีแฮ็ค และ รอบหนังStand by Me: Doraemon

ครั้นเมื่อบท 007 Spectre โดนแฮ็ค นั่นทำให้พวกงานต้องรีบแก้ไขเพราะด่วน




โดยภายหลัง ทันทีที่วันที่ 4 ธันวาคม 2557 ที่ผ่านมา ทางผู้อำนวยการสร้างหนังหนัง 007 เจมส์ บอนด์ ไมเคิล จี วิลสัน ด้วยกัน บาบาร่า บร็อคเคอรี่ นั้นได้ประกาศชื่อตอนของหนัง 007 เจมส์ บอนด์ อย่างเป็นทางการ กับภาคใหม่ล่าสุดที่มีชื่อว่า SPECTRE เพราะที่มีผู้กำกับการแสดงหนังจากภาคก่อน แซม แมนเดสมากุมบังเหียนอีกครั้ง และ แดเนียล เคร็ก ก็ยังคงกลับมารับบทบอนด์เป็นครั้งที่ 4 อีกตามเคย

ซึ่งทางกองถ่ายจักโหมโรงต้นขึ้นตั้งแต่วันจันทร์ที่ 8 ธันวาคม 2557 พร้อมทั้งจักมีกำหนดเข้าฉาย วันที่ 6 พฤศจิกายน 2558 เพราะที่โปรแกรมหนังเหล่าดารานำที่จักตบเท้าเข้าร่วมแสดงก็ได้แก่

  1. คริสตอฟ วอลท์
  2. ลีอา เวย์ดูซ์
  3. เดฟ บัลทิสต้า
  4. โมนิก้า เบลลุคซิ
  5. แอนดรูวส์ สก็อตต์


ปางแต่ ว่าครั้นไม่กี่วันที่ทะลุทะลวงมาทางโซนี่ก็ต้องกุมขมับครั้งใหญ่ พอบทภาพยนตร์ของหนังภาคล่าสุดนั้นเกิดรั่วไหลก็เพราะว่าโดนแฮ็คเกอร์นำมาตีแผ่แพร่ต่อ ซึ่งในบทภาพยนตร์นั้นมีการกล่าวถึงจุดสำคัญของเรื่องไม่ว่าจะเป็นมู่ลี่หลัง – พร้อมกับชื่อตัวละคร นั้นลามไปถึงจุดหักมุมของเรื่องที่สำคัญมาก ซึ่ง 100 หน้าของบทที่รั่วออกมานั้นเต็มไปด้วยกำแพงแอ็คชั่นและพล็อตตัวละครที่เรียกได้ว่าทั้งตัวละครเลือกระฉ่อนดเก่าพร้อมทั้งใหม่คละเคล้ากันไป

ซึ่งถ้าใครยังไม่กระหายรู้จุดรั่วไหลของหนังภาคล่าสุดขอแนะนำว่าให้เลิกอ่านจากจุดนี้ไปครับ

เพราะว่าที่ในภาคนี้บอนด์จะเกริ่นตั้งคำถามถึงอนาคตของตัวเองหลังจากการจากไปของ M หรือว่า จูดี้ เดนท์ ในภาคก่อน ส่วน ลีอา เวย์ดูซ์ นั้นจะมารับบทเป็นลูกสาวของ M คนก่อน ด้าน แอนดรูวส์ สก็อตต์ จักมารับบทศัตรูของ คนใหม่ ราฟท์ ไฟนน์ ส่วนโมนิก้า เบนลุคซิ น่าจะกลายเป็นสาวบอนด์ฝั่งตัวร้ายที่มีเอี่ยวกับฝ่ายก่อการร้าย

และในตัวบทหนังใหม่นั้นเขียนเพราะ 1.จอห์น โลแกน , 2.นีล เพอร์วิส พร้อมด้วย 3.โรเบิร์ต เวด

ปางแต่ว่าภายหลังเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นทางสตูดิโอ MGM จึงต้องหาทางแก้ไขเป็นการด่วนพร้อมด้วยอาจจักมีการปรับแก้บางส่วนของหนังใหม่เลยทีเดียว






การ์ตูนเรื่อง Stand by Me: Doraemon จากวันที่เรารู้จักกันจนวันลาจาก




โดยหลังจากที่ตัวอย่างหนังใหม่ Stand by Me ได้หยิบช่วงเวลาของโดราเอมอน ในโมเมนต์สำคัญเพราะว่าจักเล่าเรื่องราวตั้งแต่ช่วงเวลาที่โดราเอมอนได้เดินทางมายังช่วงเวลาของโนบิตะเพื่อช่วยเหลือในการเปลี่ยนแปลงอนาคตข้างหน้า

ซึ่งโนบิตะ นั้นจักได้รู้จักกับของวิเศษต่างๆ นา ไปจนถึงโนบิตะจักต้องเดินทางไปยังโลกอนาคตเพื่อช่วยเหลือกระฉ่อนโนบิตะในตอนโตกับช่วยเหโจษ ชิซูกะ ระหว่างตอนี่เธอกำลังลำบาก พร้อมด้วยช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดคือตอนนี่โนบิตะจักต้องลาจากจากโดราเอมอนเพื่อกลับโลกอนาคต

ด้วยกันตัวหนังเรื่อง Stand by Me : Doraemon ซึ่งได้ผู้กำกับการแสดงภาพยนตร์ชาวญี่ปุ่นชื่อดังอย่าง ยามาซากิ ทาคาชิ ที่มีความโดดเด่นในการเล่าเรื่องราวสุดกินใจใน Always: Sunset on the Third Street ทั้งสามภาค ซึ่งตัวเขาเองก็เป็นแฟนหนังสือการ์ตูนโดราเอมอนมาอย่างยาวนานจนเขาต้องเอ่ยปากยอมรับว่าแท้จริงๆ แล้วผลงานงานหลายๆเรื่องของเขานั้นได้รับอิทธิพลอย่างมากจากผลงานของ ฟูจิโกะ เอฟ ฟูจิโอะ อาทิเช่นหนังเรื่อง Juvenile

เหตุด้วยความแตกต่างระหว่างโดราเอมอนในเรื่อง Stand by Me : Doraemon กับโดราเอมอนในตอนยาวๆ แบบอื่นๆ ที่มักจักออกฉายเป็นประจำทุกๆ ปีนั้นอยู่ตรงที่ครั้งนี้งานด้านภาพจักถูกออกแบบมาเป็น 3D ด้วยกันมีการเขียนพล็อตเรื่องขึ้นมาใหม่

เพราะว่าที่ทางทีมงานหนังออนไลน์โปรดิวเซอร์นั้นก็ต้องเจรจากับทางฟูจิโกะโปร ผู้ถือลิขสิทธิ์โดราเอมอน ทำให้เหล่างานต้องส่งพล็อตเรื่องไปให้พิจารณา แต่ท้ายที่สุดแล้วกลุ่มงานก็ได้รับไฟเขียวให้กลายเป็นจอเงินขนาดยาวได้ทันที

เพราะด้วยตัวหนังแล้วจะถูกดัดแปลงมาจากหนังสือการ์ตูนทั้งสิ้น 7 เล่มประกอบไปด้วย

  1. ผู้มาจากโลกอนาคต
  2. ชิซูกะจังในไข่
  3. ชิซูกะจังลาก่อน
  4. ความโรแมนติกบนภูเขาหิมะ
  5. คืนก่อนงานแต่งงานของโนบิตะ
  6. ลาก่อนโดราเอมอน
  7. โดราเอมอนกลับมาแล้ว 


ซึ่งเป้าหมายแน่ๆๆ ของการทำหนังเรื่องนี้ก็คือการเชิญชวนให้ผู้ใหญ่ที่เติบโตมากับโดราเอมอนกลับมาเพื่อเข้าโรงหนังพร้อมกับระลึกความหลังไปพร้อมๆ กัน






วันจันทร์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2558

ตัวอย่างหนังใหม่: มาสู่แลตัวอย่างหนังใหม่ที่จะเข้าไปมาริให้ทัศนะกันต้นปีหน้ากันไม่นานดีงามกว่า

มาลองย้อนรอยหนังเรื่อง Night at the Museum





ซึ่งถ้าจะพูดถึงหนึ่งในหนังยอดชอบประจำปี 2006 ซึ่งอันที่แน่ๆแล้วต้นกำเนิดของหนังเรื่องนี้มาจากหนังสือนิทานเกี่ยวกับเด็กในปี 1993 ซึ่งเขียนโดย มิลาน เทรนซ์ ได้กราบทูลเล่าเรื่องราวของคุณพ่อที่สมัครงานเข้ามาทำหน้าที่เป็นยามดูแลพิพิธภัณฑ์กะดึกกับค้นพบว่านิทรรศการจัดแสดงเหล่านี้ดันมีชีวิตได้ยามวิกาล ตัวหนังกำกับโดยชอนน์ เลวี่ พร้อมด้วย เก่งทำเงินไปได้ทั้งสิ้นถึง 574 ล้านเหรียญสหรัฐ

โดยที่เหตุการณ์ในหนังภาคแรกเล่าเรื่องราวของ ลาร์รี่ ไม่ใช่หรือ เบน สติลเลอร์ คุณพ่อที่เพิ่งหย่าจากภรรยามาหมาดๆ ได้ทำการสมัครทำตำแหน่งยามกะดึก ด้วยกัน ได้พบว่าชาวเผ่ามายัน ที่เป็นนักรบโรมันรวมไปถึงคาวบอยก็ออกมาสู้รบกัน แถมบรรดามนุษย์ยุคหิน นักรบชาวฮั่น ก็ได้เผาฝาผนังหลังของที่จัดแสดงจนเหี้ยน พร้อมทั้งเจ้าโครงกระดูกทีเรกซ์ก็ดันเข้าใจว่าตัวเองเป็นสุนัขเชื่องๆ ตัวหนึ่ง ท่ามกลางความอลม่านสุดๆ ซึ่งมีแต่ประธานาธิบดี ธีโอดอร์ รูสเวลท์ หรือว่า โรบิน วิลเลี่ยมส์ ที่ดูพอจักช่วยเหร่ำลือเขาด้วยกันให้คำปรึกษาได้บ้าง อีกทั้งลาร์รี่ยังต้องยับยั้งแผนการชั่วร้ายของการฮุบพิพิธภัณฑ์นี้อีกด้วย


เกี่ยวกับตัวหนังนั้นได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบพิพิธภัณฑ์มาจากพิพิธภัณฑ์แห่งชาติประจำประเทศอเมริกาเหนือ แต่ถูกสร้างขึ้นในโรงถ่ายจำลองอีกที ถึงแม้ว่าหนังภาคแรกอาจจักไม่ได้ถูกปากนักวิจารณ์เท่าไหร่นักส่วนมากคะแนนของหนังจักเฉลี่ยอยู่ที่ราวๆ C+ แต่ทว่ากระแสตอบรับจากผู้ชมที่ส่วนมากเป็นครอบครัวซะส่วนใหญ่ก็ทำให้หนังประสบความสำเร็จจนเกิดภาคต่อขึ้นมาในปี 2009





โดยที่หนังเข้าใหม่เรื่อง Night at the Museum: Battle of the Smithsonian นั้นคือภาคต่อภาคดังกล่าว เหตุการณ์ให้ภายหลังภาคแรก 3 ปี เท่าที่ลาร์รี่ปลงใจลาออกจากการเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยพิพิธภัณฑ์เงินเดือนน้อย ไปเป็น พนักงานผู้ประดิษฐ์คิดค้นผลิตภัณฑ์ แต่ว่าความคิดถึงอาชีพเดิมทำให้เขาต้องกลับมาทำอาชีพเก่า พร้อมทั้ง ได้พบว่าบรรดาผองเพื่อนจัดแสดงจากภาคแรก กำลังกลายเป็นวัตถุที่ไม่ควรนำมาจัดแสดงอีกต่อจากนั้น รอคอยการส่งไปอยู่รวมกับบรรดาวัตถุโบราณขึ้นหิ้งทั้งหลายที่สถาบันสมิธโซเนี่ยน และทำให้เขาได้พบกับเพื่อนกลุ่มใหม่อาทิ เช่น

  1. อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์
  2. อับบราฮัม ลินคอร์น 
  3. อมีเลีย เอียฮาร์ท ไม่ก็ เอมี่ อดัมส์


ส่วนในภาคที่ 2 ตัวหนังยังได้รับนักแสดงกลุ่มเดิมกลับมาอย่างครบกรุ๊ป เสียก็แต่ว่าคำวิจารณ์พร้อมด้วยรายได้น้อยกว่าภาคแรกอย่างเห็นได้ชัด แต่ถึงอย่างนั้นหนังก็ยังทำกำไรให้กับสตูดิโออย่างฟอกซ์จนหลายปีเปลี่ยนไป ปี 2014 ก็มีภาคต่อที่ชื่อว่า Night at the Museum Secret of the Tomb ตามออกมาโกยเงินคนดูอีกครั้ง


พระเอกแชนนิ่ง เททั่ม มาร์ค รัฟฟาโล่ ขอฟิตหุ่น ฝึกมวยปล้ำนาน 4 เดือน เพื่อหนังเรื่อง FOXCATCHER ปล้ำแค่ตาย


เรียกได้ว่าก็เพราะว่าเป็น ภาพยนตร์ที่สร้างจากเหตุการณ์แท้ของ 2 นักแสดงนำของเรื่องเลยก็ว่าได้ ที่ได้จัดเต็มทุ่มเท เพื่อบทบาทที่ได้รับกันแบบสุดตัว เพราะที่ แชนนิ่ง เททั่ม พร้อมกับ มาร์ค รัฟฟาโล่ นั้นต้องเพิ่มน้ำหนักกับฟิตร่างกาย กว่า 10 ปอนด์ พร้อมทั้ง ยังต้องเข้าฝึกมวยปล้ำนานกว่า 4 เดือน

เพื่อที่จะได้รับบท มาร์ค และ เดฟ ชูทส์ 2 พี่น้องแชมป์มวยปล้ำเหรียญทองโอลิมปิค ทั้ง เททั่ม พร้อมกับ รัฟฟาโล่ นั้นต่างก็ไม่มีทักษะด้านมวยปล้ำมาก่อน

พร้อมทั้งนั่นทำให้พวกเขาต้องเรียนรู้ท่าทาง การเคลื่อนไหว เพราะว่าคณะงานได้นำ โค้ชผู้ฝึกสอนนักกีฬาของทีมฟ็อกซ์แคชเชอร์ ตัวเป็นแน่แท้มาเป็นผู้ฝึกให้ รวมทั้งศึกษาจากวิดิโออีกด้วย แม้ว่า รัฟฟาโล่ จะเคยเล่นมวยปล้ำมาบ้างในกาลเวลามัธยมปลาย แต่เดฟ ชูทส์เป็นคนถนัดซ้าย ซึ่งทำให้นักแสดงหนุ่มต้องลืมทุกอย่างที่เขาเคยรู้ไปให้หมด  ผมขอท้าให้ใครก็ตามที่เคยคิดว่ากีฬาที่พวกเขาเล่นนั้นโหดหินที่สุดแล้วให้มาลองเล่นมวยปล้ำดู




เพราะว่า แชนนิ่ง เททั่ม นั้นเช็ครอบหนังเป็นแทบคนเดียวในบรรดานักแสดงหลังทั้ง 3 คนที่จะต้องรับบทตัวละครที่ยังคงมีชีวิตอยู่ยิ่งอย่าง มาร์ค ชูทส์ ซึ่งปัจจุบันทำงานเป็นโค้ชมวยปล้ำในโอเรกอน โดยเขามักจะมาเยี่ยมเยียนกองถ่ายอยู่บ่อยๆ การมีเขาอยู่ด้วยเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากครับ พร้อมทั้ง มาร์คตัวแท้ปรากฏตัวในฐานะนักแสดงรับเชิญในจอเงินเรื่องนี้ด้วย





เหตุด้วยทาง FOXCATCHER ใช่ไหม ฟ็อกซ์แคชเชอร์ หรือปล้ำแค่ตาย คือผลงานการกำกับของ


  • เบ็นเน็ต มิลเลอร์ จากเรื่อง 1.Capote, 2.Moneyball  


ที่ได้รวมนักแสดงแถวหน้าอย่าง 1.แชนนิง เททั่ม สตีฟ พร้อมทั้ง 2.คาเรล มาร์ค รัฟฟาโล่ หนังที่สร้างจากเรื่องแน่แท้ของคดีฆาตกรรมที่สั่นสะเทือนไปทั่ววงการกีฬา กับเหตุการณ์สะเทือนขวัญครั้งยิ่งใหญ่ของวงการมวยปล้ำสหรัฐ เรื่องราวของสองพี่น้องนักมวยปล้ำผู้ยิ่งใหญ่ เดฟ มาร์ค รัฟฟาโล่ กับ มาร์ค แชนนิ่ง เททัม ชูทส์ เจ้าของดีกรีเหรียญทองโอลิมปิกด้วยกันแชมป์มวลปล้ำโลก 2 คราว




ที่ต้องผ่านการดิ้นรนต่อสู้จนกลายมาเป็นสุดยอดนักมวยปล้ำที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในพระประวัติศาสตร์ แต่ก่อนที่จักได้เป็นเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิคคราวถัด เดฟ ชูทส์ กลับถูกฆาตกรรมลงอย่างเเอิกเกริกดเย็น

ซึ่งนักวิจารณ์ทั่วโลกต่างก็ยกย่องให้ FOXCATCHER เป็นหนังยอดเยี่ยมแห่งปีซึ่งจะเปิดเปิดปากเบื้องหลังเหตุการณ์แน่แท้ที่สะเทือนใจคนทั้งประเทศ FOXCATCHER ปล้ำแค่ตาย เข้าชิง 3 รางวัลลูกโลกทองคำ จอเงินยอดเยี่ยม นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม นักแสดงสบทบชายยอดเยี่ยม 8 มกราคม 2015


ตัวอย่างหนังใหม่ Foxcatcher ปล้ำแค่ตาย Official Trailer HD [ซับไทย]